วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

การดูแลอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

          แน่นอนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกบ้านการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

จึงควรใช้อย่างทนุถนอมและหมั่นดูแลรักษาให้ใช้งานได้ดี เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่อง

ใช้ไฟฟ้าของคุณให้นานขึ้น วันนี้เราจึงมีข้อมูลดี ๆในการดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องใช้

ไฟฟ้า จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาฝากกันลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ดู

เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณจะได้ใช้ได้อีกนาน ๆ


ไฟฟ้าส่องสว่าง

 

  • ควรปิดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง
  • เลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมาะสมกับการใช้งาน
  • สำหรับบริเวณที่ต้องการความสว่างมากภายในอาคารควรเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์   ส่วนภายนอกอาคารควรเลือกใช้หลอดไอโซเดียมและหลอดไอปรอท
  • ควรใช้ฝาครอบดวงโคมแบบใสหากไม่มีปัญหาเรื่องแสงจ้าและหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ
  • พิจารณาใช้โคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับงานที่ต้องการแสงสว่างจุดเดียว ทีวี วิทยุ   ปิดเครื่องทุกครั้งเมื่อไม่ได้ดู
  • ควรถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้เป็นเวลานาน
  • ควรเลือกใช้โคมไฟแบบสะท้อนแสงแทนแบบเดิมที่ใช้พลาสติกปิด
  • ควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์หรือหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ แทนหลอดไส้   ซึ่งมีคำแนะนำในการใช้ดังนี้
  • หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบผอม ขนาด 18 วัตต์ และ 36 วัตต์ มีความสว่างเท่ากับหลอด 20 วัตต์    และ 40 วัตต์แต่ประหยัดไฟกว่า และสามารถใช้แทนกันได้โดยไม่ต้อง
  • เปลี่ยนบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์มี 2 ชนิด คือ ชนิดมีบัลลาสต์ภายในสามารถ
  • ใช้แทนหลอดกลมแบบเกลียวได้ส่วนหลอดที่มีบัลลาสต์ภายนอกจะมีขาเสียบเพื่อต่อกับตัวบัลลาสต์ที่อยู่ภายนอก


พัดลม

 

  • เปิดความเร็วลมพอควรเปิดเฉพาะเวลาใช้งาน
  • ควรเปิดหน้าต่างใช้ลมธรรมชาติแทนถ้าทำได้

เตารีด

 

          เตารีดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้ความร้อน ซึ่งในการรีดแต่ละครั้งจะกินไฟมาก ดังนั้นจึงควรรู้จัดวิธีใช้อย่างประหยัดและปลอดภัย ดังนี้ก่อนอื่นควรตรวจสอบดูว่าเตารีดอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งานหรือไม่ เช่น สาย ตัวเครื่อง เป็นต้น
  • ตั้งปุ่มปรับความร้อนให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า
  • อย่าพรมน้ำจนเปียกแฉะ
  • ดึงเต้าเสียบออกก่อนจะรีดเสร็จประมาณ 2-3 นาที แล้วรีดต่อไปจนเสร็จ
  • ควรพรมน้ำพอสมควร
  • ถอดปลั๊กออกเมื่อไม่ได้ใช้
  • ควรรีดผ้าคราวละมากๆ ติดต่อกันจนเสร็จ
  • ควรเริ่มรีดผ้าบาง ๆ ก่อน ขณะเตารีดยังไม่ร้อน
  • ควรดึงปลั๊กออกก่อนรีดเสร็จเพราะยังร้อนอีกนาน
  • ควรซักและตากผ้าโดยไม่ต้องบิด จะทำให้รีดง่ายขึ้น

ตู้เย็น ตู้แช่

 

  • ตั้งอุณหภูมิให้พอเหมาะ
  • ไม่นำของร้อนใส่ตู้เย็น
  • ปิดประตูตู้เย็นทันที หลังนำของเข้าและออก
  • ปิดประตูตู้เย็นให้สนิท
  • หากยางขอบประตูรั่วให้รีบแก้ไข
  • เลือกตู้เย็นหรือตู้แช่ชนิดมีประสิทธิภาพสูง
  • ควรใช้ตู้เย็นขนาดเหมาะกับครอบครัว
  • ควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อน ให้หลังตู้ห่างจากฝาเกิน 15 เซ็นติเมตร เพื่อระบายความร้อนได้สะดวก ไม่เปลืองไฟฟ้า
  • ควรหมั่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อน
  • ควรเก็บเฉพาะอาหารเท่าที่จำเป็น

หม้อหุงข้าวไฟฟ้า

 

หากรู้จักใช้อย่างถูกต้อง จะสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มาก โดยมีข้อแนะนำดังนี้
  •  ควรหุงข้าวให้พอดีกับจำนวนผู้รับประทาน
  • ควรถอดเต้าเสียบออกเมื่อข้าวสุกแล้ว
  • อย่าทำให้ก้นหม้อตัวในเกิดรอยบุบ จะทำให้ข้าวสุกช้า
  • หมั่นตรวจบริเวณแท่นความร้อนในหม้อ อย่าให้เม็ดข้าวเกาะติด   จะทำให้ข่าวสุกช้าและเปลืองไฟ
  • ใช้ขนาดหม้อหุงข้าวที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
  • ควรดึงปลั๊กออกเมื่อข้าวสุกพอแล้ว ปัจจุบันหม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีใช้กันมาก   หม้อต้มน้ำ หม้อต้มกาแฟ
  • ใส่น้ำให้มีปริมาณพอควร
  • ควรปิดฝาให้สนิทขณะต้ม
  • ควรปิดสวิตช์ทันทีเมื่อน้ำเดือด

เครื่องซักผ้า

 

  • ควรใส่ผ้าแต่พอเหมาะ ไม่น้อยเกินไป และไม่มากจนเกินกำลังเครื่อง
  • ควรใช้น้ำเย็นซักผ้า ส่วนน้ำร้อนให้ใช้เฉพาะกรณีรอยเปื้อนไขมันมาก
วิธีใช้เครื่องซักผ้าให้ประหยัดไฟฟ้าควรปฏิบัติดังนี้
  • ควรใส่ผ้าที่จะซักตามคำแนะนำของแต่ละเครื่อง
  • หากมีผ้าต้องซัก 1-2 ชิ้น ควรซักด้วยมือ
  • หากมีแสงแดดไม่ควรใช้เครื่องอบแห้ง ควรจะนำเสื้อผ้าที่ซักเสร็จมาตากแดด

เตาอบ เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ

 

           เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ ใช้ความร้อนมาทำให้อาหารสุก   หากให้ความร้อนสูญเสียไปโดยการใช้ไม่ถูกวิธี ทำให้อาหารสุกช้าลง   กินกระแสไฟเพิ่มขึ้นจึงมีข้อแนะนำการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้อย่าง ประหยัดคือ
  • ควรเตรียมเครื่องปรุงในการประกอบอาหารให้พร้อมก่อนใช้เตา
  • ควรใช้ภาชนะก้นแบนและเป็นโลหะจะทำให้รับความร้อน จากเตาได้ดี
  • ในการหุ่งต้มอาหารควรใส่น้ำให้พอดีกับจำนวนอาหาร
  • ในระหว่างอบอาหารอย่าเปิดตู้อบบ่อย ๆ
  • ถอดเต้าเสียบทันทีเมื่อปรุงอาหารเสร็จเรียบร้อย
  • ควรหรี่ไฟและปิดฝาหม้อในกรณีที่ต้องเคี่ยว
  • ควรเตรียมเครื่องปรุงให้พร้อมก่อนใช้เตา
  • ควรใช้เตาชนิดมองไม่เห็นขดลวดซึ่งไม่เสียความร้อน สูญเปล่ามาก   และปลอดภัยกว่า
  • ควรใช้พาหนะก้นแบนขนาดพื้นที่ก้นเหมาะกับพื้นที่หน้าเตาและใช้พาหนะที่มีเนื้อโลหะรับความร้อนได้ดี หากเป็นไปได้ให้ใช้กับเตาไฟฟ้าซึ่งมีขายทั่วไปอยู่แล้ว
  • ควรปิดฝาภาชนะให้สนิทขณะตั้งเตา

เครื่องทำน้ำอุ่น

 

วิธีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นให้ประหยัดและปลอดภัย
  • ปรับปุ่มความร้อนให้เหมาะสมกับร่างกาย
  • ปิดวาล์วทันทีเมื่อไม่ใช้งาน
  • หากมีรอยรั่วควรรีบทำการแก้ไขทันที
  • ต่อสายลงดินในจุดที่จัดไว้ให้ของเครื่องทำน้ำอุ่น
  • ปิดสวิชต์ไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำอุ่นเมื่อไม่ใช้
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมากับเครื่อง
  • ใช้เครื่องขนาดพอสมควร
  • ปรับปรุงความร้อนไม่ให้ร้อนเกินความจำเป็น
  • ปิดก๊อกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
  • ในฤดูร้อนไม่จำเป็นต้องใช้น้ำร้อน หรือน้ำอุ่น
  • ควรใช้น้ำอุ่นที่ได้ความร้อนจากแสงอาทิตย์

เครื่องปรับอากาศ

 

  • ปิดเครื่องทุกครั้งเมื่อไม่อยู่
  • ปิดประตูหน้าต่างและผ้าม่านกันความร้อนจากภายนอก
  • ตั้งอุณหภูมิไม่ควรต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส
  • ควรใช้เครื่องขนาดเหมาะสมกับขนาดห้อง
  • ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง
  • ควรติดตั้งเครื่องระดับสูงพอเหมาะ และให้อากาศร้อนระบายออกด้านหลังเครื่องได้สะดวก
  • ควรบุผนังห้อง และหลังคาด้วยฉนวนกันความร้อน
  • ควรบำรุงรักษาเครื่องให้มีสภาพดีตลอดเวลา
  • ควรหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ และแผงระบายความร้อน
  • ในฤดูหนาวขณะที่อากาศไม่ร้อนมากเกินไป ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ
  • ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิดไม่ให้ความเย็นรั่วไหล
  • พิจารณาติดตั้งบังแสงหรือกันแดด เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่อง
          การใช้เครื่องปรับอากาศให้มีความเย็นที่สบายต่อร่างกาย   จะประหยัดค่าไฟฟ้าอย่างได้ผล ซึ่งควรปฏิบัติดังนี้
  • ควรเลือกใช้ขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของห้อง
  • ควรใช้ผ้าม่านกั้นประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอก
  • ตั้งปุ่มปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมต่อร่างกาย (ประมาณ 26 องศาเซลเซียส)
  • หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมากับเครื่องปรับอากาศ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น